การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์หมายถึงอะไร

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์หมายถึงอะไร

สาระน่ารู้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ Comments Off

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (Software piracy) เป็นการคัดลอกที่ผิดกฎหมาย นำไปแจกจ่ายในอินเตอร์เน็ต หรือการใช้ของปลอม ตามสถิติในปัจจุบันมีประมาณ 36% ของบริษัทใหญ่ที่ใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ หรือโปรแกรมเถื่อน การละเมิดในรูปแบบนี้ ทำให้ผู้พัฒนาสูญเสียรายได้ไปอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคต้องแบกรับราคาที่เพิ่มสูงขึ้น

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นกับซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ที่มีฟังก์ชั่นเต็มรูปแบบ เมื่อเทียบกับตัวที่จัดกัดเวลาใช้งาน 7 วัน / 30 วัน หรือ แบบจำกัดฟังก์ชัน ที่เรียกว่าเป็น แชร์แวร์ (sharewere) มีโอกาสน้อยที่จะถูกปลอมแปลง เนื่องจากสามารถดาว์โหลดมาใช้ได้ฟรี แล้วอะไรที่เข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์บ้างล่ะ ด้านล่างนี้เป็นเพียงบางส่วนที่เป็นการที่ละเมิด แถมยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย

  1. ติดตั้งซอฟต์แวร์มากเกินจำนวน ตามที่ระบุเอาไว้ในใบอนุญาต
  2. การปลอมแปลง หรือการทำซ้ำเพื่อจำหน่ายใหม่
  3. การเผยแพร่-ดาว์โหลดซอฟต์แวร์ จากระบบ peer-to-peer หรือเว็บไซต์ทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ

news-Software-copyright-site

แนวทางในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์

ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีการจดสิทธิบัตรอย่างถูกต้อง และแสดงเครื่องมาก บนผลิตภัณฑ์ของตน แต่แท้จริงแล้วนั้น ตัวซอฟต์แวร์ได้รับการคุ้มครองโดยอัตโนมัติ นับตั้งแต่เริ่มการใช้งานครั้งแรก ตามหลักการแล้วหมายความว่า คุณเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ไม่มีผู้ใดสามารถลอกเลียนแบบ หรือนำผลงานไปขายได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากตัวเจ้าของเอง ถือเป็นระเบียบที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มของเจ้าของผลงานโดยเฉพาะ

เมื่อใดก็ตามที่มีการละเมิดเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่า เราจะนอนตีพุงแล้วรอให้คนอื่นจัดการให้ เพราะระบบคุ้มของไม่ได้ทำงานแบบนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวเจ้าของเองว่า จะมอบหมายให้ทีมกฎหมายดำเนินคดีกับคู่กรณีหรือไม่ เพื่อโน้มน้าวให้ศาลตัดสินให้อีกฝ่าย ทำการหยุดละเมิดผลงานของเรา ถ้าเป็นบริษัทที่เปิดมานานจะรู้ดีว่าต้องรีบจดถูกต้องตามระเบียบ หากยังไม่ได้ลงทะเบียนในเวลาที่เหมาะสม อาจไม่คุ้มค่าที่จะฟ้องร้องผู้ละเมิด

เนื่องด้วยค่าธรรมเนียมทนายความเป็นอะไรที่แพงสุดๆ ซึ่งหมายความว่าการทำคดีจะคุ้มค่า ก็ต่อเมื่อทำการฟ้องร้องให้อีกฝ่ายมอบเงินค่าเสียหายมาเป็นจำนวนมาก เพื่อให้คุ้มกับค่าเสียเวลา และค่าทนายความ แต่บ่อยครั้งที่ยากมากที่จะแสดงให้เห็นว่า ความเสียหายทางการเงินที่เกิดจากการละเมิดลิขสิทธิ์ คิดเป็นมูลค่าเท่าไหร่ หมายความว่าคุณอาจใช้จ่าย 2 ล้านบาท สำหรับค่าธรรมเนียมในการฟ้องร้อง แต่ได้เงินกลับมาเพียง 1 ล้านบาท กล่าวอีกนัยหนึ่ง การคิดหวังได้เงินค่าเสียหายอย่างเดียว จะสร้างความเสี่ยงอย่างมากที่คุณจะสูญเสียเงินโดยใช่เหตุ ยกเว้นว่าได้จดทะเบียนภายใน 3 เดือน ก่อนที่จะมีการละเมิด จะมีกฎหมายออกมาคุ้มครองในส่วนค่าเสียหาย ในจุดนี้เราไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานว่าเกิดความเสียหายเท่าใด

Author

Back to Top